ปรับฐานข้อมูลใหม่ทำให้พีคไฟฟ้าปี2560พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์32,059เมกะวัตต์
- March 26, 2017
- Posted by: Chatchai Siri
- Category: Thai news

กระทรวงพลังงาน ปรับฐานข้อมูลพีคไฟฟ้าของประเทศใหม่ ทำให้พีคไฟฟ้าปี2560 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 32,059 เมกะวัตต์ ท่ามกลางอากาศร้อน 40 องศาเซลเซียส ช่วง ระหว่างปลายมี.ค.-พ.ค. 2560 ในขณะที่มาตรการลดใช้ไฟฟ้าภาคสมัครใจหรือDemand Response ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือต่ำกว่าเป้าหมาย
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ปรับฐานยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(Peak)ของประเทศในช่วงฤดูร้อนนี้ของปี 2560 นี้ มาอยู่ที่ 32,059 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ และสูงกว่าปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 30,973 เมกะวัตต์ หรือสูงขึ้นถึง 1,086 เมกะวัตต์ เนื่องจากมีการนำข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก(Very Small Power Producer: VSPP) ซึ่งมีสูงถึง 6,673 เมกะวัตต์ เข้ามารวมอยู่ด้วย จากที่ผ่านมาไม่สามารถรวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่มีการแจ้งข้อมูลมายังภาครัฐโดยคาดว่าพีคไฟฟ้า น่าจะเกิดช่วงปลายเดือนมี.ค.ถึงต้นเดือนพ.ค. 2560 นี้
สำหรับ การเตรียมความพร้อมในส่วนของการลดพีคไฟฟ้าลงนั้น กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันประหยัดไฟฟ้าผ่านมาตรการง่ายๆ เช่น การปิดดวงไฟที่ไม่ใช้ การปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED เป็นต้น รวมทั้งรวมทั้งจะมอบหมายให้กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินมาตรการ Demand Response หรือ DR ซึ่งเป็นมาตรการให้ภาคเอกชน ลดการใช้พลังงานลงด้วยความสมัครใจ
ด้านนายเริงชัย คงทอง ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.คาดว่าฤดูร้อนนี้อุณหภูมิเฉลี่ยประเทศจะอยู่ที่ระดับ 37 องศาเซลเซียส และสูงสุดที่ 40 องศาเซลเซียส บริเวณภาคกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดพีคไฟฟ้าของประเทศสูงสุดที่ 32,059 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม กฟผ.มีกำลังผลิตติดตั้งไฟฟ้าอยู่ประมาณ 36,000 เมกะวัตต์ จึงคาดว่าจะรับมือกับพีคไฟฟ้าในปีนี้ได้ โดยอุณหภูมิที่สูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะทำให้ยอดการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 400 เมกะวัตต์
ในส่วนการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-2 เม.ย. 2560 รวมระยะเวลา 9 วันนั้น จะกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าประมาณ 6,400 เมกะวัตต์ ซึ่งกฟผ.ได้เตรียมสำรองน้ำมันเตา 102 ล้านลิตร ให้โรงไฟฟ้าราชบุรีและโรงไฟฟ้าบางปะกง และเตรียมน้ำมันดีเซล 13.9 ล้านลิตร ให้โรงไฟ้ฟาไตรเอนเนอจี้ โรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 1 พร้อมสั่งงดซ่อมโรงไฟฟ้าในพื้นที่ กทม.รวมถึงดูแลสายส่งไฟฟ้าให้มีความพร้อมใช้งานเสมอ
credit : http://energynewscenter.com/index.php/news/detail/658